เชื้อราบนผนัง อีกหนึ่งปัญหากวนใจเรื่องบ้านที่หลายคนพบเจอ โดยเฉพาะกับบ้านเก่าที่มีการอยู่อาศัยมานาน ซึ่งถือว่าเป็นปัญหาที่ควรได้รับการแก้ไขอย่างเร่งด่วน เพราะนอกจากเชื้อราจะทำให้ที่อยู่อาศัยเกิดภาพไม่น่ามองแล้ว ยังส่งผลเสียต่อสุขอนามัยภายในบ้านอีกด้วย
สำหรับวิธีการกำจัดเชื้อรานั้นสามารถทำได้ง่ายมาก แต่หลาย ๆ คนเลือกที่จะมองข้าม และปล่อยให้ปัญหาเชื้อรานั้นค้างคามาอย่างยาวนาน เพราะไม่รู้ว่าควรจะแก้ไข และรับมืออย่างไร วันนี้เราจะมาบอกที่มาของเชื้อราบนผนัง ว่าเกิดขึ้นได้อย่างไร และมีวิธีการรับมืออย่างไรบ้าง รับรองว่าปัญหาเชื้อราบนผนังจะไม่กลับมากวนใจคุณอีกแน่นอน
สาเหตุของการเกิดเชื้อราบนผนัง
สาเหตุของการเกิดเชื้อราบนผนัง นั้นเป็นเพราะปัจจัยหลาย ๆ อย่าง ที่มักเกิดขึ้นทั่วไปตามบนผนัง หรือตามบริเวณบ้านต่าง ๆ และไม่ได้รับการแก้ไข ทำให้เชื้อราเติบโตนั่นเอง
1. ความชื้นจากฝนตก
ฤดูฝนถือว่าเป็นอีกหนึ่งปัญหาสำคัญที่มักทำให้บ้านของเราเกิดปัญหามากมาย โดยเฉพาะปัญหาเชื้อรา หรือตะไคร่ เนื่องจากละอองฝนหรือเม็ดฝนที่สาดเข้าตัวบ้านทำให้บ้านมีความชื้น ซึ่งถึงแม้ว่าฝนจะหยุดตกแล้ว แต่ความชื้นนั้นคงอยู่ เป็นเหตุทำให้บริเวณบ้านเกิดเชื้อราได้ง่าย โดยเฉพาะผนังที่ไม่ได้ทำกันซึมให้ดี จะทำให้ความชื้นสะสมตัวในผนังและเกิดเชื้อราขึ้นในที่สุด
2. ความชื้นที่สะสมมาอย่างยาวนาน
หลายบริเวณในบ้าน มักจะมีพื้นที่ที่สะสมความชื้นที่หลายคนมักมองข้าม ไม่ว่าจะเป็น ผนังที่อยู่ใกล้กับถังรองน้ำ ท่อน้ำในบ้าน ผนังห้องที่เกี่ยวข้องกับความชื้นอย่างห้องน้ำ ไปจนถึงผนังที่ติดเครื่องปรับอากาศหรือคอมเพรสเซอร์ รวมทั้งหากอากาศภายในบ้านที่ถ่ายเทได้ไม่ดี แสงสว่างไม่เพียงพอ ก็อาจจะทำให้เกิดความชื้นสะสม จนเป็นสาเหตุที่ทำให้เกิดเชื้อราได้นั่นเอง
3. ปัญหาบ้านรั่วซึม
สำหรับที่อยู่อาศัยเมื่ออยู่มานานหลายปี หรือมีอายุที่มากขึ้น เป็นเรื่องปกติที่ต้องพบเจอกับปัญหาบ้านรั่วซึมอยู่บ่อยครั้ง ไม่ว่าจะมาจากท่อน้ำรั่ว หรือท่อประปาแตก ซึ่งปัญหาเหล่านี้มักจะสร้างความเสียหายให้กับตัวบ้านเป็นอย่างมาก และเมื่อมีการทิ้งปัญหาไว้นานเข้าจึงทำให้เกิดเชื้อราบนผนังขึ้นได้นั่นเอง
อันตรายของเชื้อราบนผนัง
เชื้อรานั้นถือว่าเป็นอีกหนึ่งสิ่งที่สามารถขยายพันธุ์ได้อย่างรวดเร็ว โดยมันจะขยายพันธุ์โดยการสร้างสปอร์กระจายออกไปในอากาศ เราจึงไม่สามารถหลีกเลี่ยงที่จะไม่สูดเอาอากาศที่มีสปอร์เชื้อราปะปนอยู่เข้าไปในร่างกายได้เลย โดยเฉพาะการสูดเข้าไปสะสมในปริมาณมากในระยะเวลานานต่อเนื่อง ซึ่งอาจทำให้เกิดอาการปวดศีรษะ คัดจมูก น้ำมูกไหล มีไข้ ระคายเคืองตา จมูก และหลอดลมได้ โดยเฉพาะกับผู้ที่อยู่อาศัยในบ้านที่เป็นโรคประจำตัวอย่างภูมิแพ้ หรือหอบหืด
นอกจากนั้นการสัมผัสเชื้อรา ไม่ว่าจะผ่านทางผิวหนังหรือผ่านการสูดดม ก็อาจทำให้เกิดปฏิกิริยาภูมิแพ้ หรือก่อให้เกิดโรคปอดอักเสบจากอาการภูมิแพ้ได้ เพราะฉะนั้นปัญหาเชื้อราบนผนังจึงเป็นอีกหนึ่งปัญหาที่ไม่ควรมองข้ามเป็นอันขาด
วิธีรับมือกับปัญหาเชื้อราบนผนัง
ก่อนที่จะเริ่มทำกำจัดเชื้อรา เราต้องเริ่มจากการสำรวจก่อนว่าบริเวณที่เกิดเชื้อรานั้น มีความชื้นมาจากอะไร เช่น หากพบว่ามีท่อน้ำรั่วซึมหรือท่อน้ำแตกก็ให้รีบทำการแก้ไขให้ใช้งานได้ตามปกติก่อน เพื่อเป็นการป้องกันไม่ให้เกิดปัญหาเชื้อราผนังห้องซ้ำซากหลังแก้ไขอีกนั่นเอง จากนั้นจึงค่อยมากำจัดเชื้อราเพื่อลดปริมาณเชื้อรา
การกำจัดเชื้อราอย่างถูกวิธีจะช่วยลดปริมาณเชื้อราและลดความเสี่ยงในการเกิดโรคต่าง ๆ อีกทั้งยังทำให้บ้านสะอาดและน่าอยู่ ซึ่งส่งผลให้ผู้อยู่อาศัยมีสุขภาพที่ดีอีกด้วย สำหรับวิธีการกำจัดปัญหาเชื้อราบนผนังมีดังนี้
1. น้ำยาฟอกขาว หรือผงฟอกขาว
วิธีกำจัดราดำบนผนังด้วยสารเคมีของน้ำยาฟอกขาว หรือผงฟอกขาว เป็นอีกหนึ่งวิธีที่นิยมในการกำจัดเชื้อราเป็นอย่างมาก เพราะตัวน้ำยาฟอกขาวนั้นเป็นสาร Hypochlorite ซึ่งมีส่วนผสมของคลอรีน ซึ่งเป็นน้ำยากันเชื้อราหรือราดำได้ดี
สำหรับวิธีการใช้นั้นง่ายมาก เพียงแค่นำน้ำยาฟอกขาว มาผสมกับน้ำในอัตราส่วน 1:99 จากนั้นให้เติมใส่ขวดสเปรย์ แล้วนำไปฉีดบริเวณที่เชื้อราเกาะอยู่ตามผนัง หลังจากฉีดพ่นเสร็จ ให้นำแปรงมาขัดอีกรอบ เชื้อราก็จะค่อย ๆ หลุด และเบาบางลงไป
2. แปรงสีฟันและแอลกอฮอล์
การใช้แอลกอฮอล์นั้น ถือว่าเหมาะสำหรับใช้กำจัดเชื้อราที่ไม่ฝังลึกมาก โดยวิธีกำจัดราดำบนผนังนั้นสามารถทำได้ง่าย ๆ คือการใช้แปรงขัดเชื้อราสีดำออกให้หมดก่อน หลังจากนั้นให้ใช้ผ้าชุบแอลกอฮอล์เช็คทำความสะอาดบริเวณที่เกิดเชื้อรา เพื่อเป็นการป้องกันไม่ให้เชื้อราเจริญเติบโตขึ้นได้อีกครั้งนั่นเอง
แต่ในกรณีที่เพิ่งเริ่มมีเชื้อราเพียงเล็กน้อย เราก็สามารถนำแอลกอฮอล์ที่มีค่าความเข้มข้น 80 เปอร์เซ็นต์ ราดลงบนจุดที่เกิดเชื้อราได้เลย ซึ่งวิธีนี้ควรทำในพื้นที่ที่สามารถระบายอากาศได้ดีเท่านั้น และควรสวมผ้าปิดปาก แว่นตา และถุงมือขณะลงมือทำความสะอาดด้วย เพื่อป้องกันการสูดดมแอลกอฮอล์เข้าไปนั่นเอง
3. ผงซักฟอกผสมน้ำ
สำหรับการใช้ผงซักฟอกผสมน้ำนั้น ให้เรานำผงซักฟอกไปผสมกับน้ำก่อน แล้วใช้ผ้าจุ่มน้ำค่อย ๆ เช็ดลงบนผนังเบา ๆ อย่าให้แรงจนเกินไป เพราะอาจทำให้สีผนังหลุดล่อน หรือเกิดร่องรอยเสียหายได้ เมื่อเช็ดเชื้อราออกจนหมดแล้ว ควรใช้เครื่องดูดฝุ่นดูดบริเวณที่มีเชื้อราอีกครั้งหนึ่ง เพื่อกำจัดสปอร์ออก
4. ในกรณีที่ผนังเป็นวอลเปเปอร์
ในกรณีที่ผนังเป็นวอลเปเปอร์เกิดเชื้อรา ให้เราลอกวอลเปเปอร์ของเก่าที่มีเชื้อราออกทั้งหมดก่อน เพราะหากทิ้งไว้ จะทำให้เชื้อราลามไปส่วนอื่น ๆ ได้ จากนั้นตรวจสอบบริเวณผนังว่ามีรอยรั่วและร้าวหรือไม่ โดยเฉพาะบริเวณที่มีท่อน้ำ เพราะบริเวณนี้จะมีความชื้นมากกว่าที่อื่น ซึ่งเป็นไปได้สูงที่จะเกิดเชื้อรา เมื่อตรวจสอบเรียบร้อยแล้ว ให้ทิ้งไว้จนผนังแห้งสนิท แล้วค่อยเริ่มทำความสะอาด
วิธีป้องกันไม่ให้เกิดเชื้อราในบ้าน
หลังจากทำการกำจัดเชื้อราบนผนังออกจนหมดแล้ว ในระยะแรกให้หมั่นตรวจสอบบริเวณที่เคยเกิดเชื้อรา ว่ายังมีความชื้น หรือมีเชื้อราเกิดขึ้นใหม่หรือไม่ ซึ่งถ้าหากดูด้วยตาแล้วไม่พบเชื้อราในบริเวณดังกล่าว หรือไม่มีกลิ่นแปลกปลอม รวมทั้งหากสมาชิกในบ้านสามารถใช้พื้นที่บริเวณนั้นได้ตามปกติโดยไม่เกิดปัญหาสุขภาพก็แน่ใจได้ครับว่าเชื้อราบริเวณนั้นถูกกำจัดจนหมดแล้ว
ถึงแม้เชื้อราตามธรรมชาตินั้น จะมีอยู่ทั่วไป และไม่สามารถกำจัดให้หมดไปได้ง่าย ๆ แต่เราก็ยังสามารถป้องกันไม่ให้เชื้อราเจริญเติบโตได้โดย
- เช็กรอยแตกร้าวบริเวณรอบตัวบ้านอย่างสม่ำเสมอ เพราะน้ำอาจจะซึมเข้าตัวบ้าน ซึ่งเป็นเหตุของการเกิดเชื้อราได้
- ไม่ตากเสื้อผ้าเปียกในบริเวณบ้านที่ไม่มีลม เพราะจะทำให้เกิดความชื้นได้ง่าย
- เปิดหน้าต่างอย่างสม่ำเสมอ เพื่อให้อากาศถ่ายเท และให้แสงแดด สามารถส่องเข้าสู่ตัวบ้าน เพื่อป้องกันการอับชื้นนั่นเอง
- ติดตั้งพัดลมดูดอากาศภายในห้องน้ำหรือห้องครัว เพื่อให้อากาศหมุนเวียน
ปัญหาเชื้อราบนผนัง สิ่งที่คนรักบ้านห้ามมองข้าม
เชื้อราบนผนัง เป็นปัญหาที่แก้ไขได้ง่าย ๆ แต่ไม่ควรมองข้าม เพราะนอกจากจะทำให้บ้านดูไม่สวยงาม และสกปรกแล้ว ยังทำให้เกิดปัญหาสุขภาพแก่ผู้อยู่อาศัยอีกด้วย และเพื่อป้องกันการเกิดปัญหาเชื้อราบนผนัง เราควรหมั่นตรวจสอบ ใส่ใจเรื่องความชื้น และจุดรั่วซึมต่าง ๆ ภายในบ้านอย่างสม่ำเสมอเพื่อป้องกันปัญหาเชื้อราจากความชื้นที่จะเกิดขึ้นในอนาคตนั่นเอง
สำหรับอีกหนึ่งวิธีที่จะช่วยป้องกันปัญหาเชื้อราบนผนังได้ดี คือการใช้น้ำยากำจัดเชื้อราทำความสะอาดคราบสกปรก และใช้ผลิตภัณฑ์สีทาภายในคุณภาพอย่างสีกัปตัน ที่นอกจากจะช่วยปกป้องเชื้อราบนผนังได้แล้ว ยังช่วยให้บ้านดูใหม่ สดใส และไม่ทำให้บ้านทรุดโทรม แถมยังปลอดภัยต่อสุขภาพอีกด้วย
ปรึกษาปัญหาสี
Facebook: Captain Coating
Line: Captain Coating