บริษัท กัปตัน โค๊ทติ้ง จำกัด

สีทาบ้านเสื่อมสภาพคืออะไร? ควรมีวิธีการแก้ไขยังไงบ้าง?

สีผนังบ้านถือว่าเป็นส่วนที่สำคัญมากของตัวบ้าน เพราะสีผนังบ้านนั้นจะเป็นเหมือนความประทับใจแรกของบ้านเรา ยิ่งมีสีที่สวย สะอาด และเรียบเนียน ก็จะทำให้บ้านของเราน่าอยู่มากขึ้น แต่อย่างไรก็ตามสีผนังบ้านก็มีอายุการใช้งานตามระยะเวลา ทำให้เกิดปัญหา ‘สีทาบ้านเสื่อมสภาพ’ นั่นเอง

สีทาบ้านเสื่่อมสภาพจึงเป็นปัญหาที่เจ้าของบ้านทุกคนต้องเคยเจอ ซึ่งหลายคนก็มักจะมองข้ามปัญหานี้ เพราะคิดว่าไม่ได้ส่งผลอะไรต่อการอยู่อาศัยมากนัก แต่จริง ๆ แล้วหากเราปล่อยให้ปัญหาสีทาบ้านเสื่อมสภาพยังคงเกิดขึ้น และไม่ได้รับการแก้ไข อาจส่งผลไม่ดีต่อผู้อยู่อาศัยได้ วันนี้เราจะพาไปรู้จักกับปัญหาสีทาบ้านเสื่อมสภาพคืออะไร? และควรมีวิธีการแก้ไขยังไงบ้าง?

ลักษณะของสีทาบ้านเสื่อมสภาพ

สีทาบ้านเสื่อมสภาพจะมีลักษณะเป็นผงละเอียด อาจเป็นสีขาว หรือสีเดียวกับฟิล์มสีที่ลอกออกมา วิธีตรวจสอบสีทาบ้านเสื่อมสภาพ ให้เราใช้มือของเราลูบลงไปบนสีที่เราต้องการตรวจสอบ ซึ่งถ้ามีฝุ่นสีขาว หรือสีฟิล์มติดขึ้นมาบนมือ แสดงว่าสีทาบ้านของเราเริ่มเสื่อมสภาพแล้วนั่นเอง

สีทาบ้านเสื่อมสภาพ มักเกิดกับสีทาภายนอกที่เจอสภาวะอากาศภายนอก ไม่ว่าจะเป็น ลม, ฝน แดด หรือผนังที่มีการใช้งานยาวนาน มีความชื้นสะสมสูง บริเวณเหล่านี้มักจะพบร่วมกับปัญหาสีซีดจางนั่นเอง

สาเหตุของการเกิดสีทาบ้านเสื่อมสภาพ

สาเหตุของการเกิดสีทาบ้านเสื่อมสภาพ

ปัญหาสีทาบ้านเสื่อมสภาพ มีสาเหตุการเกิดจากหลายปัจจัย โดยสามารถพบได้ทั้งภายใน และภายนอก แต่ปัญหาสีทาบ้านเสื่อมสภาพมักพบกับสีทาภายนอก เนื่องจากภายนอกจะเจอสภาวะอากาศที่รุนแรงมากกว่าภายในนั่นเอง โดยสาเหตุหลักของปัญหาสีทาบ้านเสื่อมสภาพ มีสาเหตุดังนี้

1. สีรองพื้น

ปัญหาสีทาบ้านเสื่อมสภาพ มักเกิดจากการไม่ทาสีรองพื้น หรือใช้สีผิดประเภท ไม่ว่าจะเป็นการนำสีสำหรับทาภายในมาทาภายนอก ซึ่งส่วนใหญ่แล้วสีทาภายในอาคารจะไม่ทนทานต่อสภาวะอากาศภายนอกได้ดีเท่าที่ควร

ซึ่งเราสามารถแก้ปัญหาได้โดยการใช้ผลิตภัณฑ์จากสีกัปตัน ที่มีคุณสมบัติปกป้องสีผนังบ้าน สามารถเช็ดล้างทำความสะอาดง่าย และยังช่วยยืดอายุการใช้งานของสีกำแพงบ้านได้เป็นอย่างดี

  • สีรองพื้นปูนอเนกประสงค์ Perfex Primer ด้วยโมเลกุลที่มีความละเอียดสูง สามารถแทกซึมเข้าพื้นผิวได้ง่าย ช่วยให้การยึดเกาะดีขึ้น และยังช่วยปรับสภาะด่างบนผิวปูนให้เป็นกลาง ป้องกันไม่ให้คราบเกลือซึมออกมาทำลายผิวสีทับหน้า ป้องกันเชื้อราและตะไคร่น้ำได้ดี เหมาะสำหรับใช้ทาเป็นรองพื้นบนพื้นผิวปูนทุกชนิด รวมถึงกระเบื้องแผ่นเรียบต่าง ๆ โดยเฉพาะปูนที่เพิ่งฉาบเสร็จใหม่ ๆ
สีรองพื้นปูนอเนกประสงค์ Perfex Primer

2. ใช้สีคุณภาพต่ำ

สีทาผนังที่มีคุณภาพต่ำ ก็เป็นอีกหนึ่งปัจจัยที่ส่งผลต่อสีผนังของเราได้เช่นกัน หากใช้สีที่มีคุณภาพต่ำก็จะได้ผลลัพธ์เป็นสีทาบ้านเสื่อมสภาพเร็วกว่าปกตินั่นเอง และหากต้องการให้ได้ผลลัพธ์ที่ดี ยี่ห้อหรือแบรนด์ของสีรองพื้น และสีทาผนังควรเป็นสียี่ห้อเดียวกัน และผู้ผลิตเดียวกัน เพราะจะมีสูตรทางเคมีในการผลิตให้เข้ากันได้มากกว่า และไม่เกิดปฏิกิริยาต้านกันจนทำให้เกิดปัญหาสีทาบ้านเสื่อมสภาพเร็วนั่นเอง

นอกจากการใช้สีคุณภาพต่ำส่วนใหญ่แล้วจะมีปริมาณกาวที่น้อย ทำให้เมื่อเวลาผ่านไป สีภายนอกจะโดนแสงแดดทำลาย ทำให้กาวสีเสื่อมสภาพ ไม่สามารถหุ้มผงสี และองค์ประกอบอื่น ๆ ของสีได้ ทำให้สีจะกลายเป็นฝุ่นผงคล้ายชอล์ก

  • สีน้ำมาร์ค ภายในด้าน ผลิตจากผงสีชั้นเยี่ยม ทาง่ายได้พื้นที่มาก ฟิล์มสีสวย ทนทานตลอดอายุการใช้งาน ให้การยึดเกาะพื้นผิวแน่น ไม่ลอกล่อน ประหยัดคุ้มค่า คุ้มราคา มีสีให้เลือกมากทั้งสีทาภายนอกและสีทาภายใน ป้องกันด่างของปูน ต่อต้านเชื้อราได้ดี ปราศจากตะกั่วและสารปรอทจึงปลอดภัยสำหรับผู้ใช้และผู้อาศัย
สีน้ำมาร์ค ภายในด้าน

3. ผนังชื้น

สาเหตุหลักสำคัญที่ทำให้สีทาบ้านเสื่อมสภาพนั้น เกิดจากผนังที่ชื้นมากเกินไปในขณะที่ทาสี หรือมีน้ำซึมเข้าสู่ผนังภายหลังจากทาสี ซึ่งน้ำจะละลายด่างในปูน ทำให้ด่างเข้าไปทำปฏิกิริยากับฟิล์มสี ส่งผลให้กาวเสื่อมสภาพ ทำให้สีเริ่มซีดจางลง และเสื่อมสภาพกลายเป็นฝุ่นผงได้นั่นเอง

วิธีแก้ไขสีทาบ้านเสื่อมสภาพ

การแก้ไขปัญหาผนังที่มีปัญหาเรื่องสีทาบ้านเสื่อมสภาพนั้นไม่ใช่เรื่องยาก เพราะวิธีแก้ไขสีทาบ้านเสื่อมสภาพจะคล้าย ๆ กับการแก้ไขปัญหาสีอื่น ๆ เพียงแต่เราจำเป็นที่จะต้องเลือกใช้ผลิตภัณฑ์สีทาบ้านที่มีคุณภาพ เพื่อป้องกันสีทาบ้านเสื่อมสภาพเร็วกว่าปกติ และเพื่อไม่ให้เสียเวลา และเสียเงินมากกว่าที่ควรนั่นเอง

1. ตรวจสอบ และทำความสะอาดผนังบ้าน

ก่อนที่จะเริ่มแก้ไขปัญหาสีทาบ้านเสื่อมสภาพ เราจะต้องตรวจสอบบริเวณที่เกิดปัญหาก่อนเป็นอันดับแรก โดยตรวจสอบผนังให้ทั่วว่ามีรอยรั่วหรือไม่ เพื่อกำจัดความชื้นจากพื้นที่ก่อนเริ่มขั้นตอนการแก้ไขปัญหาสีทาบ้านเสื่อมสภาพนั่นเอง นอกจากนั้นพื้นผิวบริเวณนั้นจะต้องไม่มีรอยแตกลายงา หรือรอยแตกร้าว ถ้ามีต้องซ่อมแซมรอยแตกด้วยวัสดุที่มีคุณภาพก่อนการเคลือบสีนั่นเอง

เมื่อเราทำการตรวจสอบบริเวณผนังที่เกิดปัญหาเรียบร้อย อีกหนึ่งสิ่งสำคัญคือเราจะต้องเตรียมพื้นที่บริเวณนั้นให้เรียบร้อย ไม่ว่าจะเป็นการย้ายเฟอร์นิเจอร์ต่าง ๆ เพื่อป้องกันไม่ให้บริเวณนั้นเปรอะเปื้อน และเพื่อที่เราจะสามารถทำการแก้ไขปัญหาได้อย่างสะดวกด้วย

หลังจากที่ตรวจสอบ และเตรียมพื้นที่เรียบร้อยแล้ว ก่อนอื่นเราจำเป็นที่จะต้องทำความสะอาดบริเวณผนังให้เรียบร้อยก่อน โดยการกำจัดฝุ่นออกให้หมด ซึ่งในส่วนนี้สามารถใช้แปรงพลาสติกขัดทำความสะอาด หรือใช้น้ำแรงดันสูงฉีดล้างผนัง หากบริเวณนั้นไม่สามารถฉีดน้ำได้ ก็สามารถใช้ผ้าชุบน้ำเช็ดได้ เพื่อให้ปราศจากคราบสิ่งสกปรก คราบไข และสิ่งแปลกปลอมอื่น ๆ แล้วปล่อยให้ผนังแห้งสนิทก่อนเริ่มขั้นตอนอื่น

2. ลอกสีเดิม และซ่อมแซมความเสียหาย

อันดับแรกให้เราใช้เกรียงแซะสีผนังบ้านเก่าที่มีปัญหาสีทาบ้านเสื่อมสภาพออกก่อน โดยลอกสีเก่าให้ได้มากที่สุด เพื่อให้สามารถทาสีแล้วยึดเกาะได้ดียิ่งขึ้น จากนั้นจึงสำรวจความเสียหายอีกครั้งก่อนทาสีผนังเก่า เพราะหากปล่อยรอยแตกร้าวไว้ แล้วทาสีผนังปูนเก่าเลยทันที จะส่งผลให้เกิดปัญหาสีหลุดล่อนตามมาได้ เนื่องจากความชื้นที่อาจแทรกซึมเข้ามาผ่านรอยแตกร้าวนั่นเอง หลังจากนั้นให้ฉีดน้ำล้างทำความสะอาดฝาผนัง และใช้แปรงขัดฝาผนังซ้ำอีกรอบ

3. ทาน้ำยากันตะไคร่น้ำ

หลังจากซ่อมแซมรอยแตกร้าวแล้ว ใช้กระดาษทรายขัดพื้นผิวให้เรียบเนียน แล้วฉีดน้ำขัดล้างทำความสะอาดคราบสกปรก ตะไคร่น้ำ หรือเชื้อราออก และทิ้งไว้ให้แห้ง จากนั้นจึงทาน้ำยาฆ่าเชื้อรา และตะไคร่น้ำ ทิ้งไว้ 3-4 ชั่วโมง จึงเริ่มทาสีได้

  • 213 น้ำยากันตะไคร่น้ำ เชื้อรา กัปตัน สูตรน้ำ เป็นสารเคลือบใสกันซึมประเภทไซล็อกเซน เป็นน้ำยากันตะไคร่น้ำ เชื้อรา ทนต่อสภาพแวดล้อมได้ดี เหมาะสำหรับงาน ภายนอกอาคาร เช่น อิฐโชว์แนว หินทรายล้าง หินกาบ คอนกรีต และผนังปูนขัดมัน เป็นต้น
213 น้ำยากันตะไคร่น้ำ เชื้อรา กัปตัน สูตรน้ำ

4. ทาสีด้วยสีรองพื้น

เมื่อผนังเรียบ แห้งสนิท และไร้สิ่งสกปรกแล้ว ให้ใช้แปรงหรือถ้าพื้นที่กว้างก็ใช้ลูกกลิ้งทาสีในการทาสีรองพื้น โดยให้เลือกชนิดที่เหมาะกับพื้นผิว หากพื้นผิวเก่าเสื่อมสภาพมากทาสีรองพื้นปูนเก่าจำนวน 1 เที่ยว และใช้สีรองพื้นแบบยืดหยุ่นเพื่อป้องกันการแตกลายงาในอนาคตด้วย จำนวน 1 -2 เที่ยว จากนั้นให้ทาสีทับหน้าอีก 2 รอบเพื่อปิดผิวแตกลายงา และป้องกันเชื้อรา ความชื้นที่จะเกิดกับบ้านได้

คำแนะนำก่อนจะเริ่มทารองพื้น เราขอแนะนำว่าให้แปะเทปสำหรับงานทาสีเพื่อกันพื้นที่ที่ไม่อยากให้เลอะ ทั้งเพดานและขอบประตูหน้าต่าง การทาสีสำหรับผนังที่มีพื้นที่กว้าง ควรทาสีจากด้านบนลงด้านล่าง เพื่อป้องกันไม่ให้สีเลอะบริเวณที่ทาไปแล้วนั่นเอง หลังจากนั้นรอให้แห้ง

5. เริ่มทาสีผนัง

เมื่อสีรองพื้นแห้งแล้ว ให้นำสีน้ำอะคริลิกที่ต้องทาทับหน้า มาผสมน้ำ 10% ของปริมาณสี แล้วทาลงบนผนังจำนวน 2 เที่ยว ห่างกันเที่ยวละ 2 ชั่วโมง โดยการเลือกสีต้องเหมาะกับพื้นที่การใช้งาน รวมถึงวัสดุของพื้นผิวที่จะทา โดยทั่วไปสีทาผนังประกอบด้วย 4 องค์ประกอบ ได้แก่ สี สารยึดเกาะ ตัวทำละลายเพื่อกันไม่ให้สีจับตัวเป็นก้อน และสารเติมแต่งเพื่อคุณสมบัติพิเศษต่าง ๆ

การลอกสีเดิมออกให้หมดก่อน แล้วจึงค่อยทาสีรองพื้น ตามด้วย สีทาผนังลงทับ จะทำให้ติดทนนานยิ่งขึ้น แต่โดยพื้นฐานแล้ว อายุขัยของสีทาผนังนั่น จะมีอายุราว ๆ 10 – 15 ปี ดังนั้นเมื่อใกล้ครบกำหนดแล้ว ก็ควรทำการซ่อมแซม ทาสีใหม่ เพื่อช่วยให้บ้านของคุณหมดปัญหาเรื่องสีผนังได้นั่นเอง

โดยก่อนทาสีเราขอแนะนำให้อ่านวิธีใช้งาน คำแนะนำ และคำเตือนข้างกระป๋องสีให้เข้าใจก่อนเริ่มลงมือเพื่อให้มั่นใจว่าคุณทาสีถูกวิธีจะได้ไม่เกิดปัญหาภายหลัง เมื่อทาสีเสร็จทิ้งไว้จนแห้งสนิทก่อนจะใช้งานในพื้นที่

ป้องกันปัญหาสีทาบ้านเสื่อมสภาพ ด้วยผลิตภัณฑ์สีกัปตัน

การป้องกันปัญหาสีทาบ้านเสื่อมสภาพ สามารถทำได้โดยการทาสีตามขั้นตอนที่ถูกต้อง โดยใส่ใจในขั้นตอนการเตรียมพื้นผิว พื้นผิวต้องสะอาด และแห้งสนิท ซึ่งต้องแน่ใจว่าปราศจากฝุ่นละออง คราบไขมัน ผนังไม่มีรอยแตกร้าว และรอยแตกลายงา ป้องกันจุดที่มีการรั่วซึมของน้ำเข้าสู่ผนัง รวมไปถึงการตรวจระบบท่อระบายน้ำต่าง ๆ เพื่อป้องกันน้ำ และความชื้นซึมเข้าสู่ผนังได้

นอกจากนั้นเราควรเลือกใช้ผลิตภัณฑ์สีที่มีคุณภาพสูง สามารถความทนทานต่อสภาวะอากาศมากกว่า สำหรับพื้นผิวที่มีฝุ่นผงมาก โดยเฉพาะผลิตภัณฑ์ของสีกัปตัน ที่มีคุณสมบัติการแทรกซึมที่ดี เสริมสร้างการยึดเกาะ และความแข็งแรงให้กับผนังก่อนทาสีในชั้นถัดไปได้ และยังช่วยปกป้องสีทาบ้านบนผนังของคุณได้เป็นอย่างดีอีกด้วย

ปรึกษาปัญหาสี

Facebook: Captain Coating

Line: Captain Coating

เราใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ของคุณ คุณสามารถศึกษารายละเอียดได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และสามารถจัดการความเป็นส่วนตัวเองได้ของคุณได้เองโดยคลิกที่ ตั้งค่า

Privacy Preferences

คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

Allow All
Manage Consent Preferences
  • Always Active

Save