ช่วงหน้าฝน หลายพื้นที่ต้องประสบปัญหาน้ำท่วม และแม้ว่าน้ำจะเริ่มถยอยลดลงเรื่อย ๆ แล้ว ก็ยังมีอีกหลายสิ่งภายในบ้านที่ต้องเตรียมรับมือ อีกมากมาย เพื่อฟื้นฟูให้บ้านกลับคืนสู่สภาพปกติที่สุด บทความนี้จะมาแนะนำ 10 จุดสำคัญที่ตรวจเช็กบ้าน หลังน้ำท่วม หลังจากประสบปัญหาน้ำท่วม เพื่อเป็นแนวทางให้กับทุกคนได้ฟื้นฟู คืนสภาพบ้านหลังเดิมให้กลับมาสวยเหมือนเดิม
เหตุผลสำคัญ ที่ต้อง ตรวจเช็กบ้าน หลังน้ำท่วม
- หลังน้ำท่วมขังเป็นเวลานาน มักส่งผลกระทบต่อโครงสร้างภายในบ้าน ทั้งรอยผุพัง รอยแตกร้าวตามจุด ต่าง ๆ ดังนั้นการ ตรวจเช็กบ้าน หลังน้ำท่วม จะช่วยให้คุณสามารถแก้ไขผลกระทบที่เกิดขึ้นจากน้ำท่วมขัง ลดความเสี่ยงที่จะก่อให้เกิดความเสียหายต่อตัวบ้านในระยะยาวได้
- ช่วงเวลาที่น้ำท่วมขัง มักแฝงไปด้วยสิ่งสกปรก เชื้อโรค แบคทีเรียที่มากับน้ำ ดังนั้นการตรวจเช็กบ้าน ตรวจสอบจุดต่าง ๆ ภายในบ้าน จะช่วยลดความเสี่ยงต่อสุขภาพในอนาคตได้
- อย่างที่กล่าวไปข้างต้นแล้วว่า ปัญหาเรื่องบ้านหลังน้ำท่วม เป็นเรื่องที่เลี่ยงไม่ได้ และไม่ควรสะสมในระยะยาว การตรวจเช็ก สภาพบ้านหลังน้ำท่วมให้เร็วที่สุด จะยิ่งช่วยให้คุณตรวจเจอปัญหา และสามารถซ่อมแซมได้ตั้งแต่เนิ่น ๆ ลดการเกิดค่าใช้จ่ายที่บานปลายในอนาคต
- ปัญหาสำคัญที่มักตามมา หลังจากน้ำท่วมผ่านพ้นไป คือปัญหาที่เกี่ยวกับระบบไฟฟ้าภายในบ้าน โดยเฉพาะ ปลั๊กไฟ ไฟรั่ว ปัญหาเหล่านี้หากไม่ได้รับการแก้ไขอย่างทันท่วงที อาจจะเกิดการบานปลาย และมีอันตรายต่อชีวิตได้
10 จุดสำคัญ ต้องตรวจเช็กบ้าน หลังน้ำท่วม
- สิ่งแปลกปลอมภายในบ้าน
จุดสำคัญที่ห้ามลืม หลังน้ำลด และควรเริ่มทำเป็นอันดับตัน ๆ นั้นคือเช็ก สิ่งแปลกปลอมภายในบ้าน โดยเฉพาะสัตว์ดุร้ายที่อาจเข้ามาหลบอาศัยภายในบ้านช่วงน้ำท่วม แนะนำให้ตรวจสอบบริเวณภายในและรอบบ้านในช่วงกลางวัน สวมชุดให้มิดชิด และอาจจะเลือกใช้ไม้ยาวแหวกนำทาง เน้นส่องดูตามซอก หรือมุมอับ หากไม่มั่นใจหรือพบสิ่งแปลกปลอม ให้เรียกเจ้าหน้าที่หรือเพื่อนบ้านมาช่วยจัดการ
- ระบบไฟฟ้า ภายในบ้าน มองหาจุดที่ชำรุด หรือเสื่อมสภาพ เพื่อให้แก้ไขได้ทันท่วงที
ปัญหาที่ตามมาได้หลังจากมีน้ำท่วมขังเป็นเวลานาน คือปัญหาที่เกี่ยวข้องกับระบบไฟฟ้าภายในบ้าน ไม่ว่าจะเป็น รอยรั่ว รอยชำรุดเสียหาย ดังนั้นเพื่อความปลอดภัยในการ ตรวจเช็กบ้าน หลังน้ำท่วม แนะนำให้สับคัตเอาต์ลง เพื่อตัดระบบไฟฟ้าภายในบ้าน ลดความเสี่ยงจากการถูกไฟดูด และควรรอน้ำแห้งประมาณ 1- 3 วัน ให้แน่ใจจึงค่อยทดลองเปิดวงจรไฟฟ้าอีกครั้ง หากไม่สามารถใช้งานได้ แนะนำให้เรียกช่างไฟฟ้า เพื่อตรวจสอบเพิ่มเติมและสามารถซ่อมแซมได้อย่างถูกต้อง
- ตรวจสอบระบบน้ำ ภายในบ้าน
ปัญหาเมื่อเกิดน้ำท่วมขังเป็นเวลานาน อาจส่งผลต่อระบบปั๊มน้ำ ทำให้มอเตอร์เกิดความชื้น และเสียหาย ไม่สามารถใช้งานได้ ทางที่ดี แนะนำให้เรียกผู้เชี่ยวชาญมาตรวจสอบและซ่อมแซม
นอกจากนี้ อย่าลืมตรวจสอบ แท้งก์พักน้ำ ว่าอยู่ในสภาพสมบูรณ์หรือไม่ หากไม่รอยรั่ว หรือรอยสนิม ควรรีบทำการซ่อมแซม เพื่อไม่ให้เกิดสิ่งปนเปื้อนในน้ำ
- ราง ท่อน้ำ และบ่อพัก
หลังน้ำท่วม บริเวณท่อและรางน้ำภายในบ้าน อาจเป็นจุดสะสมของเชื้อโรค ไม่ว่าจะเป็นขยะที่ไหลติดมากับน้ำ หรือเศษดินเศษโคลนที่อาจจะมาทับถม จนเกิดเป็นปัญหาในระยะยาว ดังนั้นการตรวจเช็กบ้าน หลังน้ำท่วม คุณควรจัดการจุดเหล่านี้ โดยการตักเศษขยะ เศษดินขึ้นมาทิ้ง ให้เรียบร้อย หรือเพิ่มน้ำหมักชีวภาพ เพื่อลดกลิ่นเหม็นจากการหมักหมม ภายในท่อ
- รั้วบ้าน
ปัญหาน้ำท่วม อาจทำให้รั่วบ้านของคุณเกิดการเสื่อมสภาพลงได้ ดังนั้นหลังน้ำลด อย่าลืมตรวจสอบความมั่นคงของรั่วบ้านในแน่ใจ ว่ายังอยู่ในสภาพที่ใช้งานได้ และสามารถรับน้ำหนักได้ดี หากแนวรั้วมีการทรุดตัวลง ควรรื้อถอนและติดตั้งใหม่ เพื่อความปลอดภัยในระยะยาว
- ตรวจสอบพื้นบ้าน
น้ำที่ท่วมขังเป็นเวลานาน นอกจากจะเป็นแหล่งสะสมเชื้อโรคมากมายแล้ว ยังอาจก่อให้เกิดความเสียหายของพื้นบ้านตามมาได้ โดยเฉพาะ บ้านที่เป็นพื้นไม้ ที่อาจเกิดการเสื่อมสภาพ บิด งอ บวม หรือเกิดผุกร่อนได้ แนะนำให้เลาะพื้นที่ผุพังเหล่านั้นออกก่อน จากนั้นรอให้แห้งสนิท แล้วจึงปูพื้นใหม่ทับ
สำหรับการทำความสะอาดพื้นบ้านหลังน้ำท่วม ให้เก็บกวาดเศษดินเศษโคลนออกให้หมด จากนั้นใช้น้ำยาฆ่าเชื้อเช็ด ทำความสะอาดพื้นอีกครั้ง และหากบ้านใครมีกลิ่นอับชื้น แนะนำให้เปิดประตู หน้าต่างให้โล่ง เพื่อให้อากาศถ่ายเทได้สะดวกขึ้น
- เฟอร์นิเจอร์ ที่แช่น้ำเป็นเวลานาน
เช็กบ้าน หลังน้ำท่วม อย่าลืมตรวจสอบเฟอร์นิเจอร์ที่ถูกแช่น้ำเป็นเวลานาน โดยเฉพาะวัสดุไม้ ที่อาจจะเกิดการบวม ผิดรูปได้ หากเฟอร์นิเจอร์ไหนที่ดูไม่ค่อยเข็งแรง เสียหายหนัก แนะนำให้เคลียร์ทิ้งจะดีกว่า แต่หากเฟอร์นิเจอร์ไหนที่ไม่เสียหายมากนัก อาจจะเช็ด ทำความสะอาด ผึ่งไว้ให้แห้ง แล้วจึงนำกลับมาใช้อีกครั้ง
- ฝ้าเพดาน
แม้ว่าฝ้าเพดานอาจจะไม่โดนน้ำโดยตรง แต่จากความชื้นที่สะสมภายในบ้านเป็นเวลานาน ก็อาจทำให้ฝ้าเพดานเกิดความเสียหายได้ ควรรีบเปลี่ยนฝ้าเพดานที่เสื่อมสภาพ รวมทั้งโครงฝ้าเพดาน ที่อาจเกิดการทรุดตัว เพื่อป้องกันปัญหาที่อาจเกิดขึ้นในอนาคต
- คราบสกปรก บนผนังบ้านโดยรอบ
จุดสำคัญต่อมาที่เห็นได้ชัดหลังน้ำลด นั่นคือ ความเสียหายที่เกิดขึ้นกับผนังบ้าน และสีทาบ้าน ไม่ว่าจะปัญหาสีโป่งพอง สีหลุดร่อน จากการแช่น้ำเป็นเวลาหลายวัน หรือแม้แต่คราบตะไคร่ที่เกาะติดตามผนัง ปัญหาเหล่านี้เบื้องต้น แนะนำให้เช็ดทำความสะอาดด้วยน้ำสบู่ หรือน้ำเปล่าเพื่อเอาคราบสกปรกออก จากนั้นจึงค่อยเริ่มซ่อมแซมความเสียหายส่วนอื่น ๆ
ข้อควรระวังหลังน้ำลด สำหรับใครที่อยากทาสีบ้านใหม่ แนะนำ ให้ ทำความสะอาดพื้นผิว ขัดลอกสีเดิมออกให้หมด และทิ้งไว้ให้แห้งสนิทอย่างน้อย 3 เดือน ก่อนเริ่มลงสีทาบ้านใหม่ เพื่อช่วยให้สีทาบ้านติดทน มีประสิทธิภาพมากขึ้น
สีกัปตัน RePaint และ สีกัปตัน RePaint Primer ผลิตภัณฑ์ที่ออกแบบมาพร้อมเทคโนโลยีพิเศษ เหมาะสำหรับงานทาสีบ้านเก่า คืนความสวยสดให้บ้านน่าอยู่เหมือนเดิม
- เฟอร์นิเจอร์เหล็กภายในบ้าน
จุดสุดท้าย อย่าลืม เช็กลูกบิดประตู บานพับ หรือ เฟอร์นิเจอร์เหล็กอื่น ๆ ภายในบ้าน ว่ายังสามารถใช้งานได้เป็นปกติหรือไม่ หากมีสนิม ให้ใช้กระดาษทรายขัดออก หรือใช้น้ำยาหล่อลื่น หยอดตามข้อต่อต่าง ๆ เพื่อให้สามารถใช้งานได้เป็นปกติ แต่หากเสื่อมสภาพจนไม่สามารถแก้ไขได้แล้ว แนะนำให้เปลี่ยนใหม่ไปเลย จะปลอดภัยกับการใช้งานในระยะยาวมากกว่า
การ ตรวจเช็กบ้าน หลังน้ำท่วม ให้กลับมาเป็นสภาพปกติ เป็นเรื่องที่ต้องใช้เวลาและใช้แรงใจอย่างมาก ทั้งซ่อมแซมส่วนที่ผุพัง ปรับปรุงพื้นที่ให้น่าอยู่ หรือทาสีบ้านให้กลับมาดูสดใสเหมือนเดิม หวังว่าบทความนี้จะเป็นแนวทาง เริ่มต้นสำหรับการฟื้นฟูบ้านหลังเจอวิกฤต ช่วยให้บ้านของคุณ กลับมาอบอุ่น น่าอยู่เหมือนเดิม
อ่านบทความอื่นที่เกี่ยวข้อง :
จัดการบ้านหลังน้ำท่วมยังไงดี? รวมวิธีการดูแลสีทาบ้าน หลังน้ำ
ฝุ่นเกาะสีตามผนังบ้าน ปัญหานี้แก้ไขอย่างไร?
ขั้นตอนซ่อมสีผนังลอกที่ถูกต้อง [พร้อมบอกวิธีการซ่อมเฉพาะจุด]